7 กรกฎาคม 2566:
ทีเส็บต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
และสินค้าชุมชน ปักหมุดภาคเหนือตอนบนสู่การเป็นฮับการจัดงานไมซ์ด้านชาและกาแฟนานาชาติ
เดินหน้าปั้นเชียงรายและเชียงใหม่สู่ “นครแห่งชาและกาแฟ”
นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า การส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ในภาคเหนือ
ทีเส็บมีแนวทางผลักดันให้ภาคเหนือตอนบนเป็น “จุดหมายปลายทางการจัดงานไมซ์ทางด้านชาและกาแฟระดับนานาชาติ”
ในเบื้องต้นได้ปักหมุดหมายไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ผลักดันให้เป็นเมืองแห่งชาและกาแฟระดับโลก
โดยอาศัยอัตลักษณ์ของเมืองที่มีจุดเด่นทางภูมิศาสตร์ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกชาและกาแฟชั้นเลิศ
นอกเหนือจากทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ปีนี้ทีเส็บดำเนินงานผ่าน 3 โครงการหลัก คือ โครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน ผ่านการจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมด้านชาและกาแฟระดับนานาชาติ
หรือ World Tea and Coffee Expo ซึ่งได้จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สองเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
โครงการสนับสนุนไมซ์ซิตี้และเมืองในภาคเหนือที่มีศักยภาพในการทำตลาดเมือง (Destination
Marketing) โดยการสร้างจุดขายจากอัตลักษณ์ของเมือง (City
DNA) และโครงการบูรณาการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ: ไมซ์สร้างสรรค์ รวมพลังชุมชนภาคเหนือ ผ่านการพัฒนาเส้นทางใหม่ๆ รองรับกิจกรรมไมซ์
และผลิตภัณฑ์ไมซ์จากชุมชน
พร้อมกันนี้ ยังให้การสนับสนุนการจัดงานไมซ์ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง
โดยมีงานสำคัญอย่าง “การประชุมเครือข่ายชา-กาแฟ ประเทศไทย 2566” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยความร่วมมือระหว่าง
ทีเส็บ สถาบันชาและกาแฟแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และผู้ประกอบการชาและกาแฟ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่
6-8 กรกฎาคม 2566 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า
350 คน สร้างรายได้ราว 1.5 ล้านบาท งานนี้มีส่วนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมชา-กาแฟ
และผลักดันจังหวัดเชียงรายให้เป็น “นครแห่งชาและกาแฟ” ตามนโยบายของจังหวัด สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์
5 ปี (2566-2570) ของทีเส็บ ที่มุ่งเน้นการชูอัตลักษณ์เมืองในการยกระดับศักยภาพการรองรับการจัดงานไมซ์ในแต่ละพื้นที่
ขยายผลการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านชาและกาแฟผ่านเวทีการจัดงานไมซ์ ตั้งเป้าให้ภาคเหนือตอนบนเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ด้านชาและกาแฟระดับนานาชาติ
ทั้งการจัดประชุมเชิงวิชาการ งานแสดงสินค้า
รวมถึงการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลขององค์กรธุรกิจ
กิจกรรมที่น่าสนใจภายใต้โครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน
หรือ World Tea and Coffee Expo อาทิ การประชุมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจเพื่อพัฒนาช่องทางการลงทุน หรือ The
4th Tea and Coffee International Symposium
ในเดือนสิงหาคม 2566 ณ จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ ยังมีการอบรมพัฒนาศักยภาพและการสร้างเครือข่ายระหว่างเกษตรกร
และผู้ผลิตนอกพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อต่อยอดความร่วมมือในการผลักดันให้ภาคเหนือตอนบนเป็นศูนย์กลางการผลิต
การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจด้านชาและกาแฟของภูมิภาคอาเซียน โดยพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงชาและกาแฟในภาคเหนือสู่ภาคใต้
กำหนดจัดระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2566 ณ จังหวัดสงขลา
ทีเส็บ ต่อยอดแคมเปญส่งเสริมตลาดไมซ์ในประเทศ “มิติไมซ์ มิติใหม่
ไมซ์ดีดีที่เมืองไทย” จัดกิจกรรม “ไมซ์ดีดี ที่เจียงฮาย”
นำคณะสื่อมวลชนสร้างประสบการณ์วิถีแห่งชาและกาแฟ เฟ้นหาเส้นทางใหม่ๆ รองรับการจัดกิจกรรมไมซ์สร้างสรรค์
อาทิ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์บ้านผาฮี้ หนึ่งในแหล่งปลูกกาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับต้นในประเทศไทย
ต้นแบบวิถีชีวิตพอเพียงแบบดั้งเดิมของชนเผ่าอาข่า ชมสาธิตการชงชาด้วยน้ำที่มีค่า TDS (Total Dissolved
Solids) ที่ต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อรสชาติและสีสันของชา ณ สวรรค์บนดินฟาร์มแอนด์ทีเฮ้าส์
และร่วมกิจกรรมซีเอสอาร์ ณ โรงเล่น เรียนรู้ พิพิธภัณฑ์เล่นได้ สัมผัสกับผืนป่าที่เป็นเสมือนวัสดุชั้นเยี่ยมในการนำมาสร้างของเล่นอัตลักษณ์พื้นเมืองให้กับเด็กๆ
ได้เล่นและเรียนรู้ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน