จากความร่วมมือของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ได้ดีขึ้น รัฐบาลจึงปรับปรุงมาตรการการควบคุมแบบบูรณาการ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปอย่างต่อเนื่องควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุข อาทิ ผ่อนคลายให้จังหวัดในพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว สามารถดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคมเป็นต้นไป รวมถึงการกลับมาเปิดให้บริการการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test and Go และเปิดให้เดินทางเข้าพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพิ่มอีก 3 พื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดมาตรการและข้อกำหนดต่าง ๆ ดังนี้
1. ปรับเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์
ศบค. มีคำสั่งปรับเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ โดยให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่กำหนดไว้สำหรับพื้นที่สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้มาใช้บังคับเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดนี้
1) พื้นที่ควบคุม จำนวน 44 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอเขาสวนกวาง อำเภอเปือยน้อย อำเภอพล อำเภอภูเวียง อำเภอเวียงเก่า อำเภออุบลรัตน์) จันทบุรี (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่) ฉะเชิงเทรา ชุมพร เชียงราย (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สาย อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงแก่น อำเภอเวียงป่าเป้า) เชียงใหม่ (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม) ตรัง ตราด (ยกเว้นอำเภอเกาะกูด อำเภอเกาะช้าง) ตาก นครนายก นครปฐม นครราชสีมา (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอโชคชัย อำเภอปากช่อง อำเภอพิมาย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสีคิ้ว) นครศรีธรรมราช น่าน บุรีรัมย์ (ยกเว้นอำเภอเมือง) ประจวบคีรีขันธ์ (ยกเว้นเทศบาลเมืองหัวหิน เฉพาะตำบลหัวหิน และตำบลหนองแก) ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา (ยกเว้นอำเภอพระนครศรีอยุธยา) พัทลุง เพชรบุรี (ยกเว้นเทศบาลเมืองชะอำ) พะเยา มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง (ยกเว้นเกาะพยาม) ระยอง (ยกเว้นเกาะเสม็ด) ราชบุรี ลพบุรี ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ (ยกเว้นพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ) สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สุราษฎร์ธานี (ยกเว้นเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย) สุรินทร์ (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอท่าตูม) อุดรธานี (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอบ้านดุง อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอหนองหาน) อุบลราชธานี อำนาจเจริญ
2) พื้นที่เฝ้าระวังสูง จำนวน 25 จังหวัด กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครพนม นครสวรรค์ นราธิวาส บึงกาฬ ปัตตานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ยะลา ลำปาง ลำพูน เลย (ยกเว้นอำเภอเชียงคาน) สกลนคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองคาย (ยกเว้นอำเภอเมือง อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอสังคม) หนองบัวลำภู อ่างทอง อุตรดิตถ์ อุทัยธานี
3) พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว จำนวน 26 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี ขอนแก่น (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอเขาสวนกวาง อำเภอเปือยน้อย อำเภอพล อำเภอภูเวียง อำเภอเวียงเก่า อำเภออุบลรัตน์) จันทบุรี (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่) ชลบุรี เชียงราย (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอแม่จัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สาย อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงแก่น อำเภอเวียงป่าเป้า) เชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม) ตราด (เฉพาะอำเภอเกาะกูด อำเภอเกาะช้าง) นครราชสีมา (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอโชคชัย อำเภอปากช่อง อำเภอพิมาย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอสีคิ้ว) นนทบุรี บุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมือง) ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะเทศบาลเมืองหัวหิน เฉพาะตำบลหัวหิน ตำบลหนองแก) พระนครศรีอยุธยา (เฉพาะอำเภอพระนครศรีอยุธยา) พังงา เพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ) ภูเก็ต ระนอง (เฉพาะเกาะพยาม) ระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด) เลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน) สมุทรปราการ (เฉพาะพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ) สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย) สุรินทร์ (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอท่าตูม) หนองคาย (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ อำเภอสังคม) อุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมือง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอบ้านดุง อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอหนองหาน)
2. การขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรค
มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ข้อห้าม ข้อยกเว้น และข้อปฏิบัติสำหรับพื้นที่สถานการณ์ระดับต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการเตรียมความพร้อมตามข้อกำหนด ฉบับที่ 37 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ได้แก่ การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค กิจกรรมการรวมกลุ่มบุคคลที่สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาต (พื้นที่ควบคุมห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 500 คน พื้นที่เฝ้าระวังสูงห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 1,000 คน พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวสามารถจัดกิจกรรมกลุ่มได้ตามความเหมาะสม) มาตรการควบคุมแบบบูรณาการจำแนกตามพื้นที่สถานการณ์ และมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการ หลักเกณฑ์ หรือแนวปฏิบัติที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/262/T_0001.PDF
3. ปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว
พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเพื่อการเปิดสถานที่ กิจการ และกิจกรรมสำหรับพื้นที่สถานการณ์ที่จำแนกเป็นเขตพื้นที่เฝ้าระวัง ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ของข้อกำหนด ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 8 มกราคม 2565 โดยให้ปรับมาตรการควบคุมดังนี้ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/005/T_0046.PDF
การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เปิดให้บริการได้เฉพาะร้านที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration) ในระดับ SHA PLUS ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือผ่านการตรวจมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรค COVID - 19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop COVID 2 Plus) ของกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยแล้วเท่านั้น และให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละพื้นที่
4. มาตรการเฝ้าระวังเพื่อควบคุมการระบาดของโรคในสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังสูงที่ได้ผ่อนคลายให้ดำเนินการได้ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดในข้อ 3
สำหรับสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่ที่มีลักษณะคล้ายกันทั่วประเทศ มีความจำเป็นต้องปิดดำเนินการไว้ก่อน หากประสงค์จะปรับรูปแบบของสถานที่เพื่อให้บริการในลักษณะที่เป็นร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ผู้ประกอบการสามารถขออนุญาตดำเนินการได้โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อ 4 ของข้อกำหนดฉบับที่ 41 ลงวันที่ 8 มกราคม 2565 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/005/T_0046.PDF
5. ปรับมาตรการการเปิดรับผู้เดินทางเข้าประเทศ
ศบค. ได้ปรับแนวปฏิบัติสำหรับการเดินทางเข้าประเทศให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตามรายละเอียดดังนี้
1) อนุญาตให้ผู้เดินทางประเภทที่ 1 คือ ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล และผู้เดินทางเข้าประเทศประเภท 2 คือ ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวหรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล สามารถลงทะเบียนเดินทางเข้าประเทศได้ และผู้เดินทางประเภท 2 สามารถลงทะเบียนเดินทางเข้าประเทศในจังหวัดชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอสัตหีบ (เฉพาะตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) และตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง)
2) ผู้เดินทางประเภทที่ 1 คือผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล ต้องมีหลักฐานในการเดินทางเข้าประเทศ และการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
2.1 กรณีอยู่ในประเทศน้อยกว่า 5 วัน ให้มีหลักฐานชำระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนดในวันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และหลักฐานการจ่ายค่าตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง โดยต้องเป็นโรงแรม สถานที่พัก หรือสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนดที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดและได้รับการขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด หรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนด ได้แก่ สถานที่ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนต่อกระทรวงสาธารณสุขหรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอนุมัติและตรวจสอบ สำหรับการเข้าประเทศทางอากาศต้องมีบัตรโดยสารของสายการบินที่ระบุวันที่ในการเดินทางกลับออกนอกประเทศด้วย
2.2 กรณีอยู่ในประเทศมากกว่า 5 วัน ให้มีหลักฐานชำระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนดในวันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 5 ของระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ และหลักฐานการจ่ายค่าตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง โดยต้องเป็นโรงแรม สถานที่พัก หรือสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนดที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดและได้รับการขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด หรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนด ได้แก่ สถานที่ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนต่อกระทรวงสาธารณสุขหรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอนุมัติและตรวจสอบ โดยตรวจหาเชื้อโรคโควิด 19 ด้วยวิธี RT - PCR ครั้งที่ 1 ในวันแรก และครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ของระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ หรือเมื่อมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
3) ปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางประเภทที่ 2 คือ ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวหรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย) ชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอสัตหีบ (เฉพาะตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) และตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง) โดยต้องมีหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขดังนี้
3.1 มีหลักฐานชำระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนดเมื่อเดินทางเข้าประเทศมาไม่น้อยกว่า 7 วัน และหลักฐานการจ่ายค่าตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง โดยต้องเป็นโรงแรม สถานที่พัก หรือสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนดที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนดและได้รับการขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด หรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนด ได้แก่ สถานที่ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนต่อกระทรวงสาธารณสุขหรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอนุมัติและตรวจสอบ และให้บังคับใช้เงื่อนไขนี้กับผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีที่พำนักอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวด้วย ยกเว้นในกรณีที่อยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวน้อยกว่า 5 วัน ให้มีหลักฐานการจ่ายค่าตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง ในกรณีที่อยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวน้อยกว่า 7 วัน ให้มีหลักฐานชำระค่าที่พักหรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนดครบตามระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว กรณีการเข้าประเทศทางอากาศต้องมีบัตรโดยสารของสายการบินที่ระบุวันที่ในการเดินทางกลับออกนอกประเทศด้วย
3.2 ให้โรงพยาบาลลคู่ปฏิบัติการของโรงแรมหรือสถานที่พัก สถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนด ตรวจหาเชื้อโรคโควิด 19 โดยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 5-6 ของระยะเวลาที่พำนัก หรือเมื่อมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
3.3 กรณีผู้เดินทางในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย) ตรวจเชื้อโรคโควิด 19 โดยวิธี RT-PCR ในครั้งแรกไม่พบเชื้อ ผู้เดินทางสามารถเดินทางไปกลุ่มจังหวัดดังกล่าวได้โดยสามารถเปลี่ยนโรงแรม สถานที่พัก หรือสถานที่เข้ารับการกักกันตามที่ทางราชการกำหนดได้ไม่เกิน 3 แห่ง โดยต้องเป็นโรงแรมหรือสถานที่ตามที่ทางราชการกำหนดเท่านั้น
4) ผู้เดินทางต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอื่น ๆ ตามคำสั่งที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้โดยเคร่งครัด และให้โรงแรม สถานที่พัก หรือสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนด กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการเข้าพัก การเข้าออกของผู้เดินทาง ตามหลักเกณฑ์หรือแนวทางที่ทางราชการกำหนด
5) สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศประเภท (3) (4) (5) (6) ของข้อ 1 ของคำสั่ง ศบค. ที่ 24/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนด ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ให้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้อย่างเคร่งครัด
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศไทย
สามารถตรวจสอบประกาศและมาตรการของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
http://www.moicovid.com/ข้อมูลสำคัญ-จังหวัด
อ้างอิง
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/016/T_0062.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/016/T_0065.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/021/T_0018.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/262/T_0001.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/005/T_0046.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2564/E/307/T_0067.PDF
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/488312879453708
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/488349242783405
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/495074345444228
###
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากองค์การอนามัยโลก
https://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019/situation-reports
ศูนย์ข้อมูลกรมควบคุมโรคติดต่อ โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ โทร +66 (0) 2694 6000
https://www.businesseventsthailand.com/en/situation-update-coronavirus-covid-19 หรือ info@tceb.or.th