ประเทศไทยมีภาพลักษณ์โดดเด่นเป็นที่รู้จักทั่วโลกในเรื่อง ‘เอกลักษณ์ไทย’ ที่สร้างความประทับใจให้นักเดินทางไมซ์นานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ด้านการบริการและการต้อนรับของผู้คน อาหารไทย สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก ทั้งประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่า และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์งดงามติดอันดับโลก นอกจากนี้ ยังมีงานและกิจกรรมไมซ์นานาชาติมากมาย และหลากหลายประเภทให้เลือกสรร ตอบสนองทุกความต้องการทุกประเภท เป็นประสบการณ์มาเยือนที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ประเทศไทยเท่านั้น และด้วยความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการจัดงานไมซ์ที่มีมาตรฐานระดับโลก ผสมผสานกับแนวคิดการจัดงานสร้างสรรค์ที่หลากหลายรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการจัดงานไมซ์
1. ความเป็นไทย (Thainess)
ประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นทุนทางสังคมของประเทศที่สอดผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ผนวกกับแนวคิดสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมที่หลากหลายไปตามพื้นที่ และสถานที่จัดงานที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้การจัดงานไมซ์ในประเทศไทยเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักเดินทางไมซ์ และสร้างชื่อเสียงของไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางการจัดงานธุรกิจในระดับโลก นอกจากนี้ เอกลักษณ์อันโดดเด่นของไทยในด้านการจัดกิจกรรมหลากหลายประเภท เช่น ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การผจญภัย การสร้างทีมเวิร์ค กิจกรรมเพื่อสังคม และการประชุมเชิงอนุรักษ์ เป็นต้น
- การให้ความเคารพอ่อนน้อมถ่อมตน ความนอบน้อมต่อผู้อาวุโส ก็เป็นที่เลื่องชื่อของเอกลักษณ์ความเป็นไทย และเป็นความน่ารักของคนไทยที่ชาวต่างชาติมักเอ่ยถึง การแสดงออกทางพฤติกรรมที่ผู้น้อยมีต่อญาติผู้ใหญ่ด้วยความเคารพนับถือที่บ่งบอกถึงความสุภาพ การมีมารยาทที่ดีและมีสัมมาคารวะ เป็นแนวทางการปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคุณธรรมที่ดีของคนไทย สะท้อนให้เห็นคุณธรรมและจริยธรรมด้านความสุภาพ
- การมีความกตัญญู รู้จักตอบแทนบุญคุณ ถือว่าเป็นคุณธรรมที่มีความสำคัญต่อสังคมไทย ครอบครัวไทยได้พากันประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด จึงทำให้คนในสังคมไทยอยู่กันด้วยความสงบสุขร่มเย็น มีความรักความสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ถือว่าเป็นคุณธรรมที่เป็นเครื่องประสานจิตคล้องใจของคนในสังคมให้มีสายใยสายสัมพันธ์ระหว่างกัน
- การประนีประนอม ยืดหยุ่น ไม่ชอบการขัดแย้ง ซึ่งเป็นข้อดี สามารถเข้ากับคนได้ทุกประเภท หลากหลายความคิดเห็น และเปิดกว้างสำหรับความคิดเห็นของผู้อื่นทั้งคนไทยด้วยกันเอง และการเปิดรับความคิดเห็น หรือความแตกต่างของชาวต่างชาติ
2. ประเทศไทยเท่านั้น (Thailand Only)
- ประเพณีสงกรานต์ (Thai New Year) ประเพณีวันสงกรานต์ เป็นประเพณีฉลองการขึ้นปีใหม่ของไทย ซึ่งโดยทั่วไปจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยมีประเพณีวันสงกรานต์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา วันสงกรานต์ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของไทย ร่วมกันทำกิจกรรม ทั้งกิจกรรมในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำสงกรานต์ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ หรือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคม ทั้งการขนทรายเข้าวัด ทำบุญ ทำทาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ได้เสริมสร้างคุณค่า และความสำคัญของวันสงกรานต์ ให้ทวีคูณยิ่งขึ้น และส่งผลให้วันสงกรานต์ เป็นวันที่มีคุณค่า มีความหมายต่อคนไทย และเป็นเอกลักษณ์ของไทย
- ภาษาไทย (Thai Language) คือ ภาษาประจำชาติ เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย เป็นเครื่องมือที่สำคัญของสังคมและประเทศชาติในการศึกษา รวบรวม สั่งสม สร้างสรรค์ และถ่ายทอดศิลปวิทยาการทุกแขนง รวมทั้งเสริมสร้างความเป็นเอกราชของชาติไทยนับแต่อดีตจนปัจจุบัน ภาษาไทยจึงเป็นความ ภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ และภาษาไทยยังเสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย
- ผ้าไหมไทย (Thai Silk) เป็นเอกลักษณ์ไทย และมรดกด้านงานหัตถกรรมไทย หัตถศิลป์ไทยที่มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เป็นผ้าไหมซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากผ้าไหมทั่วไป กล่าวคือ แวววาวเป็นมันเลื่อม เนื้อผ้าฟู อ่อนนุ่ม มีน้ำหนัก บางชนิดเป็นปุ่มปมอันเนื่องมาจากระดับคุณภาพซึ่งเกิดในกระบวนการผลิตอย่างปราณีต ปัจจุบันผ้าไหมไทยที่ได้รับความเป็นสากลนิยม และเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย คือ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมแพรวา ผ้าไหมลายเกล็ดเต่า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับลาย สีที่ทอ และฝีมือของผู้ทอ ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
3. ชุมชนท้องถิ่นไทย (Local Community)
- ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9 จ.ยะลา ได้รับรางวัลกินรี ที่จัดขึ้นโดย“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” จัดทำขึ้นเพื่อมอบให้กับ ชุมชน ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทย ในปี 2564 ชุมชนนี้หมู่บ้านกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีร่องรอยของอดีตที่จัดแสดงผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องใช้ต่าง ๆ มีอนุสาวรีย์วีรชนของผู้ที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองในอดีต ส่วนจุดท่องเที่ยวอื่นๆ นั้น ต้องไปชมธรรมชาติสุดสมบูรณ์ของผืนป่าฮาลาบาลา ชมทะเลหมอกยามเช้า และเส้นทางธรรมชาติที่มีสะพานแขวนเหนือลำธาร น้ำตกขนาดใหญ่ มีสวนผลไม้ตามฤดูกาลของชาวบ้าน ที่มีให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้ทั้งชมและชิม และต้องลองเมนูท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ
เครดิตภาพจากเพจ: ชุมชนท่องเที่ยวจุฬาภรณ์พัฒนา๙ จ.ยะลา
- ย่านฝรั่งในบางกอก เส้นทางความมั่งคั่งกรุงเทพฯ
ย่านฝรั่งในบางกอก ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร บอกเล่าเรื่องราวชีวิตชาวตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทด้านการต่างประเทศ วัฒนธรรม และการค้าในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงรัชกาลที่ 6 เป็นการย้อนรอยความรุ่งเรืองในอดีตที่บ่มเพาะความเจริญให้เกิดขึ้นในปัจุบัน เริ่มต้นกันที่ท่าน้ำวัดราชาธิวาสวิหาร ไปยังโบสถ์ซานตาครูซ ย่านกุฎีจีน โบสถ์กาลหว่าร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย และโบสถ์อัสสัมชัญ ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาที่เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับประเทศไทย มาจากการเลือกสรรนำเอาความเจริญในหลายด้านของชาติตะวันตกมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับความเป็นไทย เส้นทางสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมควบคู่ไปกับเศรษฐกิจของบางกอกในสมัยรัตนโกสินทร์ ที่เป็นรากฐานที่มั่นคงให้กับกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน รวมถึงความเป็นพหุสังคมวัฒนธรรม ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และภาคภูมิใจร่วมกัน
- ชุมชนบ้านน้ำจำ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
ด้วยความเขียวขจีของต้นไม้และไร่นาอันอุดมสมบูรณ์ อากาศที่บ้านน้ำจำจึงดีงามตลอดทั้งปี ที่หมู่บ้านแห่งนี้ คุณสามารถนอนพักในโฮมสเตย์ของชุมชนเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยของคนที่นี่ได้แบบใกล้ชิด แล้วตื่นขึ้นมาชิมอาหารรสชาติพื้นเมืองอย่าง หลามปลากระบอกไม้ไผ่ จอผักกาด แกงแค แกงโฮะ หอนึ่ง หรืออาหารเหนือยอดนิยมอย่างข้าวซอยและขนมจีนน้ำเงี้ยวกันให้อิ่มเต็มที่ ก่อนจะร่วมทำกิจกรรมไปกับปราชญ์ชุมชนบ้านน้ำจำ ในการฝึกรำมวยไทย ฟ้อนเจิง ตีกลองปูจา ทำขนมพื้นบ้าน ทำผ้ามัดย้อม หรือจะลองทดสอบความเป็นเกษตรกรในตัวเองด้วยการแวะไปเยี่ยมสวนผักออร์แกนิกและลองไถนาโดยใช้ควายดูก็ได้เช่นกัน ชุมชนนี้เป็นหนึ่งในชุมชนในโครงการแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมสำหรับเยาวชน THAILAND VILLAGE ACADEMY ปี 2565 โดย กระทรวงวัฒนธรรม